น้องแจน น้องสาวของเมเป็นครูสอนอนุบาลคะ เวลาว่างน้องแจนกับคุณแคเรน (ครูประจำชั้นอีกคนในห้องเรียน) ชอบไปดูหนังการ์ตูนกัน จะได้รู้ทันเด็กๆว่าเค้าชอบตัวการ์ตูนไหนกัน เมเคยติดสอยห้อยตามน้องไปดูการ์ตูนด้วย และสิ่งจะเกิดขึ้นทุกครั้งก็คือ แคเรนจะทำท่าตื่นเต้นก่อนเข้าโรงหนังว่า จะได้ทานป๊อปคอร์นแล้วๆๆ ^-^  แล้วก็อวดว่า เนี่ย...ชั้นอดข้าวกลางวันเพื่อมาทานป๊อบคอร์นที่โรงหนังเลยนะ เมกับน้องแจนอยู่ไปอยู่มาก็เริ่มติดนิสัยคุณแคเรน ติดป๊อปคอร์นกันงอมแงม ซื้อเมล็ดป๊อปคอร์นมาไมโครเวฟทานที่บ้านเกือบทุกวันเลยคะ ^-^ เวลาอยู่ในไมโครเวฟมันก็จะระเบิดดังโป้งๆๆ สนุกดี ฮี่ๆๆ

ทานป๊อปคอร์นเข้าไปมากๆเลยทำให้นึกถึงตอนเรียนวิชา food chemistry เกี่ยวกับข้าวโพด เพื่อนๆเคยสงสัยกันไหม๊คะ ว่าป๊อปคอร์นเนี่ย มันคือข้าวโพดพันธุ์ไหน ถ้าเราซื้อข้าวโพดสีเหลืองดิบๆมาคั่วๆ มันจะระเบิดไหม๊ มันทานแล้วอ้วนรึเปล่า แล้วทำไมเค้าต้องขายป๊อปคอร์นในโรงหนังด้วยหล่ะ???

ข้าวโพดป๊อปคอร์นคือข้าวโพดพันธุ์ไหน?

ข้าวโพดป๊อปคอร์นคือข้าวโพด popcorn คะ ^^! ความจริงแล้วมันคือก็ข้าวโพดพันธุ์พิเศษที่ใช้สำหรับทำป๊อปคอร์นโดยเฉพาะ เพราะฉะนั้น ถ้าเราไปซื้อข้าวโพดดิบสีเหลืองที่ใช้ทำข้าวโพดต้มมาคั่วๆ มันก็จะไม่ระเบิดเป็นป๊อปคอร์น คุณสมบัติหลักของป๊อปคอร์นที่ทำให้มันไม่เหมือนข้าวโพดพันธุ์อื่นก็คือ

1 เปลือกแข็ง (ทำให้ทนความดันได้มาก)

2 ในเมล็ดมีแป้งและน้ำอยู่ข้างในปริมาณที่พอดีกับการระเบิด (ข้าวโพดปกติมีน้ำ 70-80% ข้าวโพดป๊อปคอร์นมีน้ำ 13-14% เท่านั้น)

ขบวนการระเบิดโป้งๆ

1 เมื่อเมล็ดข้าวโพดถูกความร้อน แป้งแข็งๆในข้าวโพดก็จะเริ่มอ่อนตัวลง

2 เมื่ออุณภูมิสูงขึ้นไปถึงประมาณ 200 C น้ำในข้าวโพดป๊อปคอร์นจะเปลี่ยนเป็นควันทำให้ความดันข้างในเมล็ดข้าวโพดสูงขึ้นๆ และข้าวโพดก็ขยายขึ้นๆ (เหมือนลูกโป่งที่ถูกสูบลมเข้าไป)

3 เมื่อความดันสูงถึงจะดับหนึ่ง เมล็ดข้าวโพดก็ระเบิดออกดังโป้งๆ (เหมือนลูกโป่งแตก) ทำให้แป้งนิ่มๆด้านในถูกกลับออกมาข้างนอก เป็นป๊อปคอร์นกรอบๆที่เราทานกันนั่นเอง

สารอาหารในป๊อปคอร์น

ความจริงแล้วป๊อปคอร์นเป็นอาหารที่มีคุณค่ามากๆชนิดนึงเลยคะ เนื่องจากไฟเบอร์สูง (หนึ่งถ้วยมีไฟเบอร์ 1 กรัม เทียบกับส้มขนาดกลางมีไฟเบอร์ 3 กรัม) และมีปริมาตรมาก ทำให้ทานแล้วอิ่ม หลายๆคนเข้าใจว่าป๊อปคอร์นทานแล้วอ้วน ความจริงแล้วเป็นเพราะเนย น้ำตาล หรือ คาราเมลที่คนเติมลงไปกันมากกว่า

ป๊อปคอร์นแต่ละชนิดให้พลังงานต่างกันถึงหลายเท่า เช่น

ป๊อปคอร์นหนึ่งถ้วยไม่ใส่เนย          30 แคลอรี่ต่อหนึ่งถ้วยตวง
ป๊อปคอร์นใส่เนยแบบในโรงหนัง     60 แคลอรี่ต่อหนึ่งถ้วยตวง
ป๊อปคอร์นใส่คาราเมล                         80 แคลอรี่ต่อหนึ่งถ้วยตวง
ป๊อปคอร์นใส่ไวท์ช็อกโกแลต            114 แคลอรี่ต่อหนึ่งถ้วยตวง

ตัวอย่างนี้เมลอง search จากเวบที่คิดว่ามีข้อมูลน่าเชื่อถือได้ ต้องความจริงก็ต้องแล้วแต่ยี่ห้อด้วยคะ ว่าใส่ เนย คารเมล และ ช็อคโกแลตมากแค่ไหน ทั้งนี้ทั้งนั้น เราจะเห็นได้ว่า ป๊อปคอร์นทานแล้วอ้วนหรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าปรุงรสด้วยอะไร ถ้าป๊อปคอร์นไม่ปรุงรส ทานเข้าไปถุงใหญ่ๆหนึ่งถุง ก็ให้พลังงาน ร้อยกว่าแคลอรี่เท่านั้น แถมอิ่มเปร่เลยคะ ^-^

168
50
2
ทำไมต้องขายป๊อบคอร์นในโรงหนัง

ความจริงป๊อปคอร์นกำเนิดในยุคอินเดียแดงกว่า 5000 ปีที่แล้ว แต่เพิ่งมาเป็นขนมประจำโรงหนังเมื่อประมาณ 70-80 ปีที่แล้วซึ่งป็นยุกของ Great Depression นี้เองคะ สาเหตุหนึ่งก็เป็นเพราะว่าว่าสมัยนั้นป๊อปคอร์นจัดเป็นอาหารราคาถูก อร่อย และอิ่มท้อง ที่คนสามารถซื้อทานได้ในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือเครื่องทำป๊อปคอร์นไฟฟ้าได้ถูกผลิตขึ้นมาครั้งแรกในยุคนั้นพอดี คุณลุงคนผลิต Charles Manley ได้นำเครื่องป๊อปคอร์นไฟฟ้าไปขายให้กับโรงหนังต่างๆ สมัยนั้นเศรษฐกิจไม่ดีเลยประจวบเหมาะกับเครื่องทำป๊อปคอร์นไฟฟ้าแบบใหม่ที่เพิ่งมีในโรงหนัง ป๊อปคอร์นอันแสนอร่อยราคาถูก(แต่สมัยนี้แพ๊งแพง) ที่ทานเพลินๆเวลาดูหนังก็เลยขายดิบขายดีและกลายเป็นขนมประจำโรงหนังมาถึงทุกวันนี้ :)


บลอค,เมนูอาหาร.เกล็ดความรู้,เคล็ดลับ,สุขภาพดี,สวย,ลดความอ้วน,วิธีทำอาหาร,อ้วน,ความอ้วน,อาหาร,อาหาร สุขภาพ