เมเป็นผู้หญิงตั้งใจเรียนตัวเล็กๆหนึ่งคนที่ชอบดื่มเหล้า ฮ่าๆๆๆ
แต่ดื่มไม่เก่งเลยคะ อยากเท่ห์เหมือนเพื่อนๆ (เราชัดเจน ไม่สร้างภาพ) แต่ทานแก้วเดียวก็สนุกและมึนมากๆแล้ว
วันนี้จะขอแชร์กับเพื่อนๆที่สงสัยว่าเวลาเราเมานั้นเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายเราบ้าง ทำไมถึงคึก ทำไมถึงต้องเข้าห้องน้ำบ่อย ดื่มไปดื่มมาทำไมเดินตรงๆไม่ค่อยได้ แถมง่วงนอนอีก
ก่อนอื่นเราจะมาดูก่อนว่าแอลกอฮอล์คืออะไร  แอลกอฮอล์ที่เราดื่มนั้นคือ ethanol หรือ ethyl alcohol
รูปร่างแบบนี้
เป็นสารกดประสาทชนิดหนึ่ง (depressant)ที่เมื่อดื่มไปแล้วร่างกายเราจะทำทุกวิถีทางที่จำกำจัดมัออกไป ก่อนที่ร่างกายจะกำจัดมันออกไปได้นั้น มันจะต้องไหลเวียนอยู่ในส่วนต่างๆของร่างกายเรา ทำให้ร่างกายเรามีอาการสับสนต่างๆดังนี้

 ระบบย่อยอาหาร
เมื่อแอลกอฮอล์กำลังถูกซึมซับเข้าสู่กระเพาะอาหารและลำไส้เล็กองเราเซลล์ใน pancreas ของเราจะหลั่งฮอร์โมนอินซูลินออกมา อินซูลินเป็นฮอร์โมนที่มีหน้าที่เตือนร่างกายว่าตอนนี้เพิ่งทานข้าวนะเดี๋ยวน้ำตาลในเลือดจะสูง เก็บน้ำตาลขึ้นๆๆ
น้ำตาลในเลือดของเราจะถูกดูดซับเข้าสู่กล้ามเนื้อและอวัยวะต่างๆถ้ายิ่งเราไม่ได้ทานข้าวมาก่อน น้ำตาลในเลือดของเราก็ไม่ได้สูงอยู่แล้วเจออินซูลินเข้าไปเรายิ่งน้ำตาลในเลือดต่ำลงๆ ดื่มๆไปเราก็จะเริ่มรู้สึกมึนๆงงๆและหิวขึ้นเรื่อยๆไปตามลำดับ
(ปกติน้ำตาลในเลือดต่ำเป็นสัญญาณเตือนร่างกายว่าทานข้าวได้แล้วนะ) นี่คือสาเหตุหนึ่งที่เรามักจะหิว
  และเมาเร็วขึ้นถ้าดื่มขณะท้องว่างด้วยคะ

 ระบบประสาท
แอลกอฮอล์จะเริ่มถูกซึมซับเข้าสู่สมองจากชั้นหน้าไปถึงหลังและสมองชั้นในๆ ตามลำดับดังนี้คะ
สมอง ^-^
Frontal lobe มีทำหน้าที่ควบคุม ความคิด ความจำ สติปัญญา บุคลิก ความรู้สึก พื้นอารมณ์
 - แอลกอฮอล์เข้าสู่สมองส่วนนี้เป็นส่วนแรกๆคะ ทำให้เราจะเริ่มควบคุมความคิด ความจำ บุคลิก และอื่นๆไม่ค่อยได้ จากที่เคยเป็นสาวหวานเรียบร้อนน่ารัก เราก็จะเริ่มควบคุมความเรียบร้อยของเราไม่อยู่ เริ่มออกเสตปแด๊นซ์ต่างๆ คึกคักๆ 
- ถึงแม้เราจะสนุกแต่มันก็มีอันตรายตามมาตรงที่สติปัญญาอันเฉียบแหลมของเราก็จะหดหายไปด้วย เป็นสาเหตุที่เราไม่ควรขับรถเป็นอย่างยิ่งคะ การคาดคะเนและตัดสินใจของเราจะไม่แม่นยำเหมือนปกติ
Parietal lobe
Temporal lobe
Occipital lobe
- มีหน้าที่ควบคุม การสัมผัส พูดและรับรส, การได้ยินดมกลิ่น, และการมองเห็น ตามลำดับ
- เมื่อแอลกอฮอล์เริ่มเข้าสู่lobe ทั้งสามนี้ เราก็จะมีประสาทสัมผัสทั้งห้าไม่แม่นยำเท่าที่เคย เห็นหนุ่มๆสาวๆหน้าตาน่ารักไปหมด เพื่อนๆเราก็เริ่มพูดอะไรกันไม่รู้เรื่อง แต่นักร้องก็เสียงดี๊ดี สนุกจังเลยยย
Hippocampus เป็นหน่วยเก็บความทรงจำ ดราม่าของเราคะ
- เมื่อแอลกอฮอล์เข้าสู่ส่วนนี้ของสมอง เราจะเริ่มคึกคักน้อยลงคะ เราจะเริ่ม emo ขึ้นมา คิดถึงเพื่อนๆ คิดถึงบุญคุณของพ่อแม่
คิดถึงแฟนเก่าและเพ้อฝันถึงคู่ชีวิตในอนาคต ชีวิตเรามันเป็นดั่งละครผ่านพ้นอะไรมามากมาย เอ้าชนๆๆๆ
 
Cerebellum ควบคุมการทรงตัวของร่างกาย
- เมื่อดื่มเข้าไปมากๆและแอลกอฮอล์เข้าสู่สมองส่วนนี้แล้ว เราก็จะเริ่มเดินไม่ตรง ทำแก้วน้ำหล่น และทรงตัวไม่อยู่แล้วหล่ะคะ พอถึงจุดนี้เราจะเริ่มไม่ไหวแล้ว ร่างกายเริ่มจะ shut down และง่วงนอน เมื่อเราดื่มไปมากๆร่างกายเราจะพยายามเป็นอย่างยิ่งในการกำจัดมันออกไป แอลกอฮอล์เรียกว่าเป็น diuretics เพราะดื่มแล้วทำให้เราอยากปัสสาวะบ่อย และดื่มมากๆพิษจากแอลกอฮอล์ก็จะทำให้เราอาเจียนคะ

สุดท้ายนี้ขอฝากกระบวนการกำจัด (metabolize)
แอลกอฮอล์ สำหรับเพื่อนๆที่สนใจ โฮ่ๆ ^-^
Ethanol นั้นจะถูกเปลี่ยนเป็น Acetaldehydeก่อนที่จะเป็น Acetate à และก็เป็นAcetyl coA เข้า kreb cycle
ไป(เข้าสู่กระบวนการหายใจ) Acetaldehyde นั้นเป็นตัวที่ทำให้เราหน้าแดงๆเวลาดื่มเข้าไปซักพักนึงคะ^-^

สาเหตุที่คนเอเซียหลายคนหน้าแดงง่ายมากๆ  ก็เป็นเพราะว่า เอนไซม์ Acetalaldehyde Dehydrogenase (ALDH… ทั้งหลายที่อยู่ในภาพข้างบน) ของบรรพบุรุษของเราไม่ค่อยสมบูรณ์กันคะ ส่งผลให้พวกเราบางคนทำลาย
Acetaladehyde ไม่ค่อยได้ ร่างกายสะสมไว้มากๆแล้วเลยหน้าแดงกว่าชาติอื่นๆเค้า
 
หลายคนคงเคยได้ยินเกี่ยวกับโรค Anorexia และ Bulimia ซึ่งเป็นโรคที่ผู้หญิงคนขาวเป็นกันมากพอๆกับโรคซึมเศร้าเลยทีเดียว เมไม่แน่ใจว่าคนไทยนั้นเป็นกันมากแค่ไหน แต่ประเทศเราก็น่าเป็นห่วงอยู่ เพราะสาวๆเราเป็นห่วงกันเรื่องน้ำหนักกันมาก ถึงแม้ว่าสองโรคนี้จะเป็นโรคเกี่ยวกับการกิน ทราบกันไหมคะว่าความจริงแล้วมันเป็นโรคทางใจมากกว่า

Body Dysmorphic Disorder คือกลุ่มโรคที่ผู้ป่วยนั้นคิดถึงรูปร่างตัวเองมากจนเกินพอดี ไม่พอใจกับรูปร่างที่เรามีเอาซะเลย ตัวอย่างง่ายๆก็คือว่า เราหุ่นดีอยู่แล้ว แต่พอส่องกระจกกลับเห็นสาวน้อยตุ้ยนุ้ยๆไม่พอใจกับหุ่นตัวเองซักที (แหม่...นี่เราก็เป็น
( -__-) แต่คนที่เป็น Anorexia และ Bulimia นั้นจะเป็นแบบ extreme แบบนี้ 
Anorexia และ Bulimia เป็นโรคที่อันตรายมาก อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย สองโรคมีความคล้ายและต่างกันดังนี้คะ

ความคล้ายกัน

-         เป็นโรคทางการกิน ที่แท้จริงแล้วมีต้นเหตุมาจากสาเหตุทางจิตใจ คืออาจไม่พอใจกับรูปร่างเป็นอันมากทั้งที่ผอมอยู่แล้ว เป็นโรคซึมเศร้า หรืออาการทางจิตอื่นๆ

-         สาวๆที่ป่วยเป็นโรคนี้อาจทานน้อย หรือไม่ทานอะไรเลยเป็นเวลาหลายๆวัน หรือทานมากๆๆๆ (binge) เช่น ข้าวผัดสามจาน ต่อด้วยเค้กช็อคนิ่ม ไอศรีม ทาโร่ห้าห่อ  ภายในเวลาสั้นๆ และเมื่อรู้สึกผิดก็ไปอาเจียน หรือ วิ่งออกกำลังกายหลายๆชั่วโมง เพื่อที่จะเผาผลาญสิ่งที่ทานลงไป

ความต่างกัน

-         สาวๆที่เป็น Anorexia คือสาวๆที่น้ำหนักตัวผอมมากๆ (น้ำหนักตัวต่ำกว่า 80% ของน้ำหนักปกติ) สาวๆที่เป็นนั้นส่วนใหญ่จะเป็นคน Perfectionist มีการเรียนที่ดี หน้าตาที่ดี เป็นที่ชื่นชมของคนอื่น โรคนี้เป็นกันมากในนักบัลเล่ย์ นักกีฬา และสาวๆมัธยมที่น่าตาน่ารักๆๆ ที่คิดว่าเราหุ่นดีไม่พอซักที

-         สาวๆที่เป็น Bulimia ส่วนมากจะน้ำหนักปกติ หรือ ออกไปทางท้วม เพราะว่าส่วนมากเป็นคนชอบ Binge หรือทานเยอะๆๆๆๆ แล้วไปอาเจียน หรือวิ่งที่หลังอย่างที่เล่าไปคะ สาวๆที่เป็นโรคนี้ส่วนมากจะควบคุมการทานของตัวเองไม่ได้ พอหิวก็ทานเอาซะมากๆ แล้วก็รู้สึกผิดที่หลัง (แหะๆ เราก็เป็นบ่อย แต่คนเป็น Bulimia เค้าทานอย่าง extreme จริงๆคะ)  

-         คนที่เป็น Bulimia นั้นส่วนมากจะมีโรคทางจิตอย่างอื่นซับซ้อนด้วยมากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับ Anorexia เค้าอาจเป็นโรคซึมเศร้า หรือโรค Anxiety disorder, Bipolar disorder หรือโรคอื่นๆซับซ้อนมากมาย

-         คนเป็น Bulimia สังเกตุได้ง่ายกว่า เพราะว่าเค้าจะทานเยอะมากๆคะ แล้วก็ชอบขอไปเข้าห้องน้ำ (แล้วก็เข้านานๆๆๆ) หลังทานอาหารเสร็จ สาวๆที่เป็นโรคนี้ถึงแม้จะหุ่นปกติ แต่จะมีใบหน้า หรือ ช่วงคอที่ใหญ่กว่าปกติ เพราะต่อมน้ำลายจะโตจากการอาเจียนบ่อยๆ การอาเจียนนั้นทำให้ ฟันกร่อน (เนื่องจากกรด) และสารเคมีในร่างกายไม่สมดุลกัน เป็นอันตรายต่อสุขภาพมากๆเลยคะ

สาวๆที่เป็นโรคนี้ หรือ คนที่มีเพื่อนเป็นสองโรคนี้ควรตระหนักไว้ว่า มันเป็นโรคที่อันตรายจริงๆ แต่ก็อย่าได้ตกใจไปเลยนะคะ คนเป็นกันเยอะ (บางคนอาจไม่รู้หรือไม่ยอมรับว่าเป็น) อย่าน้อยใจกับชะตาชีวิตเราว่าทำไมต้องเป็นฉัน (หรือเพื่อนฉัน) ด้วยๆๆๆ สองโรคนี้เมเชื่อว่ารักษาได้คะ เมแนะนำว่าควรไปหาคุณหมอ ที่สำคัญคือต้องยอมรับมันก่อนและมีความตั้งใจที่จะหายจริงๆ เพื่อสุขภาพร่างกาย และสุขภาพใจที่ดี ของเราคะ J

มุมผู้ชาย

เมเขียนถึงสาวๆตลอดเพราะสองโรคนี้เป็นมากในสาวๆเมื่อเทียบกับหนุ่มๆ แต่เป็นผู้ชายก็เป็นกันได้เช่นเดียวกันคะ หนุ่มๆที่ลดความอ้วนก็ต้องระวังเหมือนกัน อย่าได้ extreme กันจนเกินไป

Body Dysmorphic disorder ในผู้ชายนั้นยังมีในอีกรูปแบบหนึ่งที่คนยังไม่ค่อยทราบกันคือ

Muscle dysmorphia!

เป็นกันมากในหนุ่มๆนักเล่นกล้ามคะ คนที่คิดว่ากล้ามเรานั้นใหญ่ไม่พอซักที

แบบนี้ !^-^

โรคนี้ก็อันตรายเช่นเดียวกันคะ เพราะว่าหนุ่มๆอาจไปใช้ยา Steroid หรืออื่นๆที่อันตราย สังเกตุได้ว่าเค้าจะส่องกระจกบ่อย (เพื่อเช็คกว่าเค้ากล้ามใหญ่รึเปล่า หึหึ) ไม่ค่อยมีความมั่นใจ ชอบเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับเพื่อนๆ และอาจละทิ้งแฟน หน้าที่การงาน เพื่อหนีไปออกกำลังกาย 


บลอค,เมนูอาหาร.เกล็ดความรู้,เคล็ดลับ,สุขภาพดี,สวย,ลดความอ้วน,วิธีทำอาหาร,อ้วน,ความอ้วน,อาหาร,อาหาร สุขภาพ